เกมแรกใน แอนฟิลด์ ได้ยิง 34 ครั้ง ทว่าไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ต่อมากับ เอฟเอ คัพ เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ที่นำได้ถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายก็แพ้ตกรอบแบบเจ็บช้ำช่วงนาทีบาป 

ล่าสุดก็กดเขาทั้งเกม สถิติเหนือกว่าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล หรือโอกาสทำประตู แต่ก็เหมือนเดิม จบลงด้วยการเสมอ แบบที่รู้สึกเหมือนแพ้อีกครั้ง

เรื่องน่าเขกกะโหลกที่สุดในเกมนี้ คือ ลิเวอร์พูล ครองเกมเหนือกว่าทุกอย่างจนฝั่ง ‘ปีศาจแดง’ ไม่มีปัญญาสับไกแม้แต่ครั้งเดียว แต่แล้ว จาเรลล์ ควอนซ่าห์ ดันจ่ายบอลเข้ากลางน้ำหนักขาดไปเยอะ จนกลายเป็นการถวายพานให้ บรูโน่ เฟอร์นานเดซ ยิงไกลระยะเกือบครึ่งสนามเข้าไป

แน่นอนว่าแฟนบอลอย่างเรา คงไม่ได้เก่งไปกว่า เซ็นเตอร์ดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในซีซั่นนี้ แต่เสี้ยววินาทีตอนนั้น แข้งวัย 21 ปี มีทางเลือกอื่นดีกว่าการเล่นแบบนั้นอย่างแน่นอน ซึ่งการส่งบอลในครั้งนี้ เปรียบเหมือนการเตะโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก ให้ อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาไปครอบครอง

ตอนนี้ ‘หงส์แดง’ เป็นทีมที่แพ้น้อยที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดี แต่เมื่อเสมอไปถึง 8 นัด โดยเฉพาะกับทีมที่กดเขาได้อย่างอยู่หมัดทั้งสองนัด นี่ก็เหมือนการเสีย 4 คะแนน ไปโดยใช่เหตุ ซึ่งหากยังพลาดโง่ ๆ แบบนี้อยู่ เห็นทีจะได้แค่จบอันดับ 3 แล้วก็ปลอบใจตัวเองว่าติดท็อปโฟร์ได้สำเร็จ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนเปิดฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม พวกเรายังมีคะแนนเท่ากับ ‘ปืนใหญ่’ แต่ว่าลูกได้เสียเป็นรองอยู่ 9 ประตู เพราะฉะนั้นจากนี้ ลิเวอร์พูล มีแค่ทางเลือกเดียว คือต้องลุยแบบ escapeSingleQuotเฮฟวี่ เมทัลescapeSingleQuot คว้าชัยชนะแบบถล่มทลายมาให้ได้ ถ้าอยากจะลุ้นแชมป์โดยไม่ต้องพึ่งทีมอื่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ‘เราจะพลาดแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว’

เขียนโดย The Lite Team.
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.